วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความปรองดอง


ความปรองดอง
คนไทยโดยพิ้นฐานนั้นนะปรองดองกันดีอยู่แล้ว แต่ไอ้พวกที่ชอบสร้างวาทกรรมสามานต์ เอาแต่ประโยชน์ตนนั้นนะที่มันไม่ชอบความปรองดองของคนไทย เพราะจะทำให้มันเสียผลประโยชน์ ทำให้มันเสียพลพรรค และหาความเป็นใหญ่ไม่ได้ ผมไม่เคยเห็นคนไทยที่จะขัดแย้งกันจริงๆจังๆสักที ก็มีแต่ไอ้พวกบ้าพวกนี้กับพวกนักการเมืองที่ฉ้อฉล หาความจริงใจไม่ได้เท่านั้นที่ขึ้นมาสร้างความขัดแย้งให้สังคม ถ้าไอ้พวกนี้หมดสิ้นไปเมื่อไร ประเทศไทยจะสูงขึ้นอีกเยอะ จริงๆ
...................................................
“ สังคมไทยมีความขัดแย้งอย่างสูง และความเห็นที่แตกต่างกันหากเป็นเช่นนั้นการสร้างความปรองดองไม่มีทางเกิดได้ ดังนั้นหากจะเดินไปข้างหน้าได้ต้องคุยกันก่อน โดยผมยึดแนวทางปรองดองด้วยการให้อภัย ลืมอดีต เพื่อนำไปสู่อนาคตของประเทศ หากอยากเห็นการปรองดองชาติ ต้องปลูกฝังด้านชาตินิยมร่วมกัน โดยคำนึงถึงความพอใจของคนทั้งชาติ ” พล.อ.สนธิ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20140819/599651/พล.อ.สนธิชี้คสช.ทำปรองดองไม่สำเร็จ.html?utm_medium=twitter&utm_source=twitterfeed

ท่านประยุทธได้เป็นนายกฯแล้ว


ได้ข่าวว่าท่านประยุทธได้เป็นนายกฯแล้ว ผมก็อดดีใจไม่ได้ ที่มันเป็นไปตามคาด และก็หวังว่าการปฏิรูปในครั้งนี้คงจะมีผลดีกับประเทศในวันข้างหน้าแน่นอน แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าคนไทยไม่ได้ต้องการเพียงแค่ล้างระบบทักษินเท่านั้น แต่ต้องการกำจัดพวกนักการเมืองที่ทำตัวเป็นนักธุรกิจแสวงหาแต่ผลประโยชน์ของตนให้สิ้นซากไปจากวงจรการเมืองไทยอย่างฐาวร....หวังว่าคงเป็นเช่นนั้นจริงๆ....

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เป็นเรื่องง่ายเลยที่จะโกหกด้วยหลักการทางสถิติ (ทำโพลล์) แต่ก็ดูจะง่ายกว่าถ้าจะไม่ใช้มันเลย

โพลล์ หรือที่เรียกว่า ผลสำรวจความคิดเห็น กลับมาเป็นข่าวฮือฮาระดับ Talk of the Town อีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ไปร้องเรียนต่อ กกต. ว่า โพลล์ที่ทำออกมาในช่วงนี้มีลักษณะเป็นการชี้นำ  ทางด้าน “สวนดุสิตโพลล์”  แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  ก็ยอมรับว่าได้เคยรับการว่าจ้างจากฝ่าย​การ​เมือง ​เคยรับจ้างรัฐบาล กระทรวงหน่วยงานต่างๆ ให้ทำโพลล์ รวมทั้งจัด​เวที​เสวนาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ต่อมาก็ได้มีกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตท่านหนึ่งประกาศลาออกจากนายกสภามหาวิทยาลัยเพราะเห็นว่า สวนดุสิตโพลล์นั้น ทำโพลล์โดย​ไม่คำนึง​ถึงจริยธรรม

โพลล์ หรือ การสำรวจความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ของประชาชนในเมืองไทยเริ่มถูกจับตามองมากขึ้นในห้วงเวลาไม่กี่ปีมานี้เอง  โดยเฉพาะในช่วงของการเลือกตั้งต่างๆ มักมีโพลล์สำรวจกันจนเกร่อ อย่างคลางแคลงสงสัย...?
แต่ในสังคมที่พัฒนาแล้ว โพลล์ส่วนใหญ่มักจะมีความแม่นยำ เที่ยงตรงสูง และไม่เป็นการชี้นำประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจนเกินไปนัก เนื่องจากวิธีการทำโพลล์ (Methodology) เอง และสติปัญญา (Wisdom) ของประชาชนของประเทศนั้นเองก้ด้วย  เขาจึงมักไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนบางประเทศ 

โพลล์ กับ การวิจัย มีความแตกต่างกันหลายอย่าง  เพราะโพลล์อาจไม่ต้องรับผิดชอบในบางกระบวนการจัดทำ  เช่น การออกแบบแบบสอบถาม (Questionnaire) อาจทำเพียงแค่ให้ผู้รอบรู้ช่วยตรวจสอบความเหมาะสมของการตั้งคำถาม หรือวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็น “ตัวแทนของประชากร” ในการทำโพลล์ก็อาจไม่เข้มงวดนัก เช่น ใช้วิธีการโทรศัพท์ไปสอบถามตามบ้านแทน บ้างก็ให้นักศึกษาออกไปสอบถามตามย่านการค้า ซึ่งอาจไม่ได้เป็น “ตัวแทนของประชากร” ที่ต้องการศึกษาอย่างแท้จริงก็เป็นได้ 
โพลล์มักจะไม่มีเรื่องของความรับผิดชอบในด้านจริยธรรมของนักวิจัย (โดยอ้างว่าเป็นโพลล์ เพียงแค่เป็นสำรวจความคิดเห็น)  เมื่อโพลล์ไม่ได้ลงลึกไปในบางกระบวนการของระเบียบวิธีวิจัยแล้ว ย่อมส่งผลให้โพลล์ขาดความน่าเชื่อถือขึ้นมาได้
เนื่องจากวิธีการทำโพลล์มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบการสำรวจความคิดเห็น การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การแปลผล ไปจนถึงการเผยแพร่ผลโพลล์ ทุกขั้นตอนอาจมี “ความคลาดเคลื่อน” ได้  ดังนั้น โพลล์ทุกสำนักซึ่งมีวิธีการที่แตกต่างกัน บางสำนักอาจไม่เข้มงวดในบางขั้นตอน ย่อมทำให้ข้อมูลบางอย่างหลุดรอดไปจากการควบคุม จึงอาจทำให้เกิดมี “ความคลาดเคลื่อน” ไปจากความถูกต้องอย่างง่ายดาย
กล่าวกันในหมู่นักวิชาการว่า การโกหกด้วยวิธีการในทางสถิตินั้นทำได้ง่าย และอาจง่ายกว่า....การลอกวิทยานิพนธ์เสียด้วยซ้ำไป
ชื่อเสียงของทุกๆ สำนักวิจัย จึงขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของระเบียบวิธีวิจัย (Methodology) หากปล่อยปละละเลยย่อมสะท้อนไปถึงชื่อเสียงในภาพรวมของมหาวิทยาลัยที่สังกัดอยู่นั้นด้วย ยิ่งบางสำนักวิจัยอาจทำตัวเป็น "มือปืนรับจ้าง" อยู่กับการถูกว่าจ้างให้ทำโพลล์และผลประโยชน์ของผู้ว่าจ้าง ประชาชนก็ยิ่งต้องระมัดระวังในการรับฟังพิจารณาข้อมูลโพลล์นั้นๆ
ประเด็นจริยธรรมของการทำโพลล์หรือการวิจัยจึงเป็นความรับผิดชอบลำดับแรกๆ ที่สำนักวิจัยต่างๆ ของเมืองไทยที่พึงมี

แต่สิ่งที่เหมือนๆ กันโดยหลักๆ ของโพลล์และการวิจัย (สำรวจความคิดเห็น) คือ เป็นการเปิดเผยความลี้ลับ ความคลุมเครือที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของประชาชนเหล่านั้นให้เห็นว่า ความคิดเห็นส่วนใหญ่และส่วนน้อยคิดเห็นเป็นอย่างไร โดยนับเป็นจำนวนตัวเลขของแต่ประเด็นการสำรวจความคิดเห็นนั้นได้เท่าไร และแปลความออกมาว่าอย่างไร

เช่นว่า ผู้สมัครเลือกตั้งหมายเลข .... มีคะแนนความนิยมนำหน้า ผู้สมัครเลือกตั้งหมายเลข ....  อยู่ร้อยละเท่าไร ฯลฯ

โพลล์ในสมัยนี้จึงเป็น “เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด เรียบง่ายที่สุด และปฏิวัติวงการมากที่สุด”  หรือที่เรียกกันว่า "โพลล์ชี้นำ" อย่างที่กำลังเป็นข่าวในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่กำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะนี้

แต่เดิมนานมาแล้ว ประเทศที่เป็นต้นแบบของการสำรวจทำวิจัยนั้น ได้มีการนำการวิจัยและผลการวิจัยเข้ามาเพื่อใช้วางวางรากฐานของการพัฒนาประเทศ จึงทำให้รัฐบาลของเขาเป็นรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ เพราะได้อาศัยข้อมูลการวิเคราะห์วิจัยอย่างรอบคอบ ถูกต้องตามหลักการทางสถิติ
ตัวอย่างเช่น ใช้ในการวางแผนเพื่อให้เกษตรกรของตนทำการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ชนิดใดในแต่ละรอบปี เพื่อวางแผนว่าจะแปรรูปผลผลิตเหล่านั้นอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกรได้กำไร หรือ นักอุทกศาสตร์วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น

เรื่องทำโพลล์ก็คงแตกต่างกับประเทศที่กำลังพัฒนาบางประเทศ ที่ยังมะงุมมะงาหรากับการตัดสินใจที่ไร้ทิศทางนโยบาย เพราะมัวแต่หาผลประโยชน์ใส่ตัว ยิ่งพัฒนากลับยิ่งทำให้ประชาชนหลงทางกันตกขอบ หนำซ้ำยังใช้ข้อมูลการสำรวจผลกระทบด้านต่างๆ หรือการทำโพลล์สำรวจความคิดเห็นขึ้นมาเพื่อตบตาหลอกลวงประชาชน 

รัฐบาลและนักวิชาการในบางกระทรวงของบางประเทศจึงทำโพลล์ เพื่อสนับสนุนคำพูดของ Frederick Mosteller (1916 – 2006) เป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์และสิถิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่กล่าวว่า

“It’s easy to lie with statistics, but easier to lie without them” …
“เป็นเรื่องง่ายเลยที่จะโกหกด้วยหลักการทางสถิติ (ทำโพลล์) แต่ก็ดูจะง่ายกว่าถ้าจะไม่ใช้มันเลย”

หลายประเทศในโลกนี้เจริญขึ้นได้ด้วยการทำสถิติ (วิจัย)  แต่มีบางประเทศยากจนและวิบัติก็เพราะ .. “การทำโพลล์”


โรคไวรัสอีโบลา Ebola คืออะไร

Ebola



โรคไวรัสอีโบลา Ebola คืออะไร


โรคไวรัสอีโบลา หรือไข้เลือดออกอีโบลา เป็นโรคของมนุษย์ที่เกิดจากไวรัสอีโบลา เริ่มมีอาการสองวันถึงสามสัปดาห์หลังสัมผัสกับไวรัส โดยมีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ จากนั้นมีคลื่นไส้ อาเจียนและท้องร่วงร่วมกับการทำหน้าที่ของตับและไตลดลง เมื่อถึงจุดนี้ บางคนเริ่มมีปัญหาเลือดออก

ประชากรรับโรคนี้ครั้งแรกเมื่อผู้ป่วยสัมผัสกับเลือดหรือของเหลวร่างกายจากสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น ลิงหรือค้างคาวผลไม้ เชื่อว่าค้างคาวผลไม้เป็นตัวพาและแพร่โรคโดยไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัส เมื่อติดเชื้อแล้ว โรคอาจแพร่จากคนสู่คนได้ ผู้ที่รอดชีวิตอาจสามารถส่งผ่านโรคได้ทางเพศสัมพันธ์เป็นเวลาเกือบสองเดือน ในการวินิจฉัย ต้องแยกโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกันออก เช่น มาลาเรีย อหิวาตกโรคและไข้เลือดออกจากไวรัสอื่น ๆ จากนั้น อาจทดสอบเลือดหาแอนติบอดีต่อไวรัส ดีเอ็นเอของไวรัส หรือตัวไวรัสเองเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
การป้องกันรวมถึงการลดการระบาดของโรคจากลิงและหมูที่ติดเชื้อสู่คน ซึ่งอาจทำได้โดยการตรวจสอบหาการติดเชื้อในสัตว์เหล่านี้ และฆ่าและจัดการกับซากอย่างเหมาะสมหากพบโรค การปรุงเนื้อสัตว์และสวมเสื้อผ้าป้องกันอย่างเหมาะสมเมื่อจัดการกับเนื้อสัตว์อาจช่วยได้ เช่นเดียวกับสวมเสื้อผ้าป้องกันและล้างมือเมื่ออยู่ใกล้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ตัวอย่างจากผู้ป่วยควรจัดการด้วยความระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ไม่มีการรักษาไวรัสอย่างจำเพาะโดยความพยายามช่วยเหลือผู้ป่วยมีการบำบัดคืนน้ำ (rehydration therapy) ทางปากหรือหลอดเลือดดำ โรคนี้มีอัตราตายสูง โดยอาจถึง 90% ตรงแบบเกิดในการระบาดในเขตร้อนแอฟริกาใต้สะฮารา ระหว่างปี 2519 ซึ่งมีการระบุโรคครั้งแรก และปี 2555 มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 1,000 คนต่อปี มีการระบุโรคนี้ครั้งแรกในประเทศซูดานและสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แม้จะมีความพยายามพัฒนาวัคซีนอยู่ แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีวัคซีน
ศัพท์มูลวิทยาของ โรคไวรัสอีโบลา Ebolaไวรัสชนิดนี้ได้ชื่อมาจากพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอีโบลา ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทวีปแอฟริกา (ชื่อประเทศเดิมคือ ซาอีร์) ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่โรคนี้ระบาดครั้งแรกโครงสร้างขนาดและรูปร่างจากการดูไวรัสอีโบลาด้วยกล้องจุลทัศน์อิเล็กตรอนพบว่าตัวมันมีลักษณะเป็นเส้นด้ายในกลุ่มฟิโลไวรัส ไวรัสอีโบลาหรือ EBOV VP30 มีความยาวประมาณ 288 หน่วยกรดอะมิโน ตัวไวรัสมีลักษณะเป็นท่อมีรูปร่างขดตัวต่างกันหลายแบบ เช่นคล้ายตัว "U" หรือเลข "6" แต่อาจเป็นไปได้ที่เครื่องปั่นหนีศูนย์ที่ใช้ในกระบวนการทำบริสุทธิ์อาจทำให้ตัวมันมีลักษณะดังที่เห็นก็เป็นได้ โดยทั่วไปเส้นผ่าศูนย์กลางของไวรัสนี้จะตกอยู่ประมาณ 80 นาโนเมตร ความยาวผันแปรแตกต่างกันมากกว่าลำตัว ซึ่งอาจยาวได้ถึง 1,400 นาโนเมตร แต่โดยปกติแล้วไวรัสอีโบลาจะยาวประมาณ 1,000 นาโนเมตรจีโนมจีโนม ของไวรัสแต่ละตัวจะมีโมเลกุลย่อยที่ยาวเป็นเส้นเดี่ยว และเป็น อาร์เอ็นเอ ประเภทเนกาทีฟ (negative sense RNA) ยาวเป็นจำนวน 18959 ถึง 18961 นิวคลีโอไทด์
โรคไข้เลือดออกอีโบลา
อาการโรคและการติดโรคไวรัสอีโบลา Ebola
อาการของโรคมีความผันแปรและมักเกิดฉับพลัน อาการแรกเริ่มได้แก่การมีไข้สูง (อย่างต่ำ 38.8°C หรือ 102°F) ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ ข้อและช่องท้องรุนแรง อ่อนเพลียอย่างหนักและวิงเวียนศีรษะ ในช่วงแรกๆ ที่เกิดการระบาดและยังไม่เป็นที่รู้จักมากมักวินิจฉัยว่าเป็นไข้มาลาเรีย ไข้ไทฟอยด์ ท้องร่วง ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งโรคอื่นๆ ที่เกิดจากแบคทีเรียซึ่งมีอาการคล้ายกันแต่ไม่รุนแรงถึงชีวิตอาการอาจร้ายแรงขึ้น เช่นท้องร่วงอย่างแรง อุจจาระกลายเป็นสีดำหรือแดงจัด อาเจียนเป็นโลหิต ตาแดงจัด ความดันโลหิตลดต่ำกว่า 90/60 ไต ม้ามและตับได้รับความเสียหาย อัตราการตายสูงมากถึงระหว่าง 50% - 90% สาเหตุที่ตายเกิดจากขาดเลือด หรืออวัยวะวาย
การรักษาโรคไวรัสอีโบลา Ebola
หอผู้ป่วยแยกในโรงพยาบาลที่เมืองกูลู อูกานดา เมื่อคราวการระบาดเมื่อ พ.ศ. 2543ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาจำเพาะสำหรับโรคไวรัสอีโบลา มีแต่เพียงการรักษาประคับประคอง (supportive treatment) ได้แก่ทำหัตถการแบบรุกล้ำให้น้อยที่สุด รักษาสมดุลอิเล็กโตรไลต์และสารน้ำเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ให้สารต้านการแข็งตัวของเลือดในระยะแรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย (DIC) ให้สารช่วยการแข็งตัวของเลือดในระยะท้ายเพื่อควบคุมไม่ให้มีเลือดออก รักษาระดับออกซิเจน บรรเทาอาการปวด และใช้ยาต้านเชื่อแบคทีเรียหรือยาต้านเชื้อราเพื่อรักษาการติดเชื้อซ้ำซ้อน (ถ้ามี)
http://guru.sanook.com/27269/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B2/

องค์การไม่แสวงหาผลกำไร nonprofit organisation (NPO)


องค์การไม่แสวงหาผลกำไร (อังกฤษ: nonprofit organisation หรือย่อว่า NPO) เป็นชื่อเรียกองค์การที่มีจุดมุ่งหมายสนับสนุนกลุ่มที่มีความคิดเห็นพ้องกัน โดยเนื้อหาจะแตกต่างตั้งแต่ ศิลปะ การกุศล การศึกษา การเมือง ศาสนา งานวิจัย และจุดมุ่งหมายในด้านอื่น ๆ โดยการทำงานทั้งหมดไม่มีจุดประสงค์ในเชิงพาณิชย์ ไม่หาผลประโยชน์เข้าสู่องค์การ แต่มีรายได้จากค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงจากสมาชิก หรือเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดที่ได้มาจากการบริจาคหรือจากการให้โดยเสน่หา



1. กรีนพีซ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
http://www.greenpeace.org/seasia/th
เป็นองค์กรที่ดำเนินงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระ ภายในเว็บไซต์ แสดงข้อมูลประวัติ
2. กรีนพีซ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
http://www.greenpeacesoutheastasia.org
องค์กรที่ดำเนินงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม
3. กลุ่มนิทานแต้มฝัน
http://www.tamfun.com
กลุ่มนิทานแต้มฝัน เล่านิทานและจัดกิจกรรมสำหรับเด็ก
4. กลุ่มพลังไท
http://www.palangthai.org
กลุ่มองค์กรที่ไม่มุ่งแสวงหากำไรทำงานเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด กับชุมชน
5. กลุ่มศิลปวัฒนธรรมกระจกเงา
http://www.mirrorartgroup.org
ในสังกัดมูลนิธิโกมลคีมทอง เป็นกลุ่มซึ่งดำเนินธุรกิจโดยไม่หวังผลกำไร ดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือชาวเขา
6. กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน
http://www.ftawatch.org
จัดตั้งจากการรวมตัวกันของนักวิชาการ และนักกิจกรรมจากสถาบันการศึกษา องค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ
7. กลุ่มอาสาพัฒนาเด็ก
http://www.vgcd.org
เป็นองค์กรพัฒนาภาคเอกชน(NGO)ที่ มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเด็กเร่ร่อน
8. กลุ่มอาสาพัฒนาเด็ก
http://www.vgcd.netfirms.com
เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานกับเด็กเร่ร่อน เพื่อให้การช่วยเหลือ ลดพฤติกรรมเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพชีวิต
9. กลุ่มอุตสาหกรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
http://www.foodfti.org
ข้อมูลประวัติความเป็นมาของหน่วยงาน ภารกิจ หน้าที่ และข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
10. กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตเคมี
http://www.ftipc.or.th
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร ประวัติความเป็นมาของกลุ่มอุตสหากรรม บริการสมาชิกในด้าน ข่าวสาร กิจกรรม
11. กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
http://www.ftiplastic.com
แหล่งรวบรวมข้อมูล ข่าวสารและผลงานวิจัยของอุตสาหกรรมพลาสติกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
12. กองทุนเด็กดอย
http://www.bannok.com/hillchild
เป็นโครงการหนึ่งของ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกระจกเงา ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาเอกชน
13. กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ
http://www.gpf.or.th
รวบรวมข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) บริการตรวจสอบวงเงินออนไลน์
14. กองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย
http://www.envcorp.org
เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดหาทุนเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์
15. กองทุนอนาคตประเทศไทย
http://www.thaifuturefund.com
ดำเนินงานด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับใช้ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กไทย
16. การคัดค้านการแปรรรูป กฟผ. - ขาย กฟผ.
http://www.luegat.dyndns.org
จัดทำขึ้นโดยองค์กร NGO เพื่อประชาสัมพันธ์การต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ.
17. ขบวนการผู้ก่อการดี
http://www.konlampang.org
เว็บไซต์ภาคประชาชนในจังหวัดลำปาง ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อชุมชนของตนเอง
18. คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์(กพอ.)
http://www.tncathai.org
แนะนำประวัติความเป็นมา คณะกรรมการ รายนามสมาชิก ข่าวประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมรณรงค์เรื่องโรคเอดส์
19. คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปในประเทศไทย, กัมพูชา, ลาว, มาเลเซียและพม่า
http://www.deltha.cec.eu.int
ข้อมูล บทบาทของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปในประเทศไทย, กัมพูชา ลาว มาเลเซียและพม่า
20. เครือข่ายผู้บริโภคสีเขียว
http://www.thaigreenconsumer.org
เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องต่ออาหารอินทรีย์และเกษตรกรรมยั่งยืนในประเทศไทย
21. โครงการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเฝ้าระวังการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
http://go.to/dpw
โครงการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเฝ้าระวังการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ กรณี กรมประชาสงเคราะห์
22. โครงการงดการทารุณกรรมช้างไทย
http://www.helpthaielephants.com
นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการทารุณกรรมช้างไทยในรูปภาพภาพสไลด์และข่าวสารขององค์กร
23. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเร่ร่อนเมืองพัทยา
http://www.street-children-pattaya.org
เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาและสาเหตุต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจของครอบครัว การสร้างความเข็มแข็งของชุมชนฯลฯ
24. ชิลเดรน อินเตอร์เนชันแนล ซัมเมอร์ วิลเลจ ไทยแลนด์
http://www.cisv.or.th
Children International Summer Village Thailand ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร วัตถุประสงค์ ข่าวสาร
25. ชีวิตอาข่า
http://www.akhalife.org
เว็บไซต์สำหรับรับสมัครอาสาสมัครเพื่อมาพัฒนาหมู่บ้านชาวอาข่าที่ จังหวัดเชียงราย
26. ดีเอเอดี (ประเทศไทย) : Deutscher Akadamischer Austauschdienst (DAAD)
http://www.daad.or.th
เป็นศูนย์ข้อมูลทางด้านการศึกษาในประเทศเยอรมัน และทุนให้กับนักเรียนไทย
27. ตำบลน้ำเกี๋ยน กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน
http://www.namkain.com
เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน สถานที่ศึกษาดูงานกระบวนการชุมชนเข้มแข็ง
28. ไทยเอ็นจีโอ
http://www.thaingo.org
เสนอข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ขององค์กรไม่แสวงผลกำไร NGO ด้าน การเมือง เอดส์ สิ่งแวดล้อม
29. ธรรมวิถีกวนอิม
http://www.godsdirectcontact-thai.com
ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมวิถีกวนอิม ธรรมวิถีกวนอิมคืออะไร ชีวประวัติของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ปาฐกถาธรรม
30. บอร์เดอร์แคมป์ (ไทย-พม่า)
http://www.bordercamp.net
ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อที่สำคัญในพื้นที่พักพิงชั่วคราว แสดงรายงานการติดเชื้อในปีต่าง ๆ
31. บ้านนอก.คอม
http://www.bannok.com
รวมข้อมูลองค์กรเอกชนที่ทำงานเพื่อชาวเขา และการเผยแพร่ความรู้จากห้องเรียนสู่ชนบท
32. แผนงานสนับสนุนความร่วมมือในประเทศไทย ศูนย์ฝึกอบรมวนศาสตร์ชุมชนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
http://www.thaicf.org
เพื่อเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับประเด็นด้านป่าชุมชนแก่สาธารณชน
33. มูลนิธิ โฮพ เวิลด์วายด์ (ประเทศไทย)
http://www.hopewwthailand.org
เป็นองค์กรอิสระที่ไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ ของกรมประชาสงเคราะห์
34. มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา
http://www.edfthai.org
มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา เป็นองค์กรสาธารณกุศล ลำดับที่ 255 เป็นองค์กรอาสาสมัคร
35. มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ
http://www.fopdev.org
มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ เป็นองค์พัฒนาเอกชนการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร
36. มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย
http://www.soidog.org
มูลนิธิที่ให้ความช่วยเหลือสุนัขจรจัด และแมวจรจัดเจ็บป่วย และได้รับบาดเจ็บและได้รับการทารุณกรรม
37. มูลนิธิสงเคราะห์คอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย
http://www.ptty.loxinfo.co.th/~glenp
แนะนำมูลนิธิสงเคราะห์คอมพิวเตอร์เพื่อเด็กไทย เชิญชวนให้ร่วมบริจาคคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์แก่เด็ก
38. มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ในประเทศไทย
http://www.ccfthai.or.th
มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ในประเทศไทยเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กยากจนทั่วประเทศ
39. มูลนิธิส่งเสริมโอกาสผู้หญิง (เอ็มพาวเวอร์)
http://www.empowerfoundation.org
ปกป้องคุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือ กลุ่มพนักงานบริการในสถานบริการและสถานเริงรมณ์
40. มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก
http://www.fblcthai.org
ช่วยเหลือ พัฒนาเด็กที่ถูกทอดทิ้ง และด้อยโอกาสให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม
41. มูลนิธิสื่ออินโดจีน
http://www.immf.th.org
มูลนิธิเพื่อพัฒนามาตรฐานวิชาชีพของผู้สื่อข่าวแห่งภูมิภาคอินโดจีน
42. มูลนิธิอโชก้า ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อสังคม (ประเทศไทย)
http://www.ashokathai.org
แนะนำมูลนิธิอโชก้าสากลและประเทศไทย คณะทำงาน สมาชิกอโชก้าในไทย กิจกรรมโครงการต่างๆ ของมูลนิธิ
43. แม่โขง โปรแกรม ออน วอเตอร์
http://www.mpowernet.org
ค้นหาและแก้ไขปัญหาทรัยากรน้ำและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความช่วยเหลืออุทกภัย
44. แมดไซอัน
http://www.madscience.org
องค์กรที่จัดสรรสถานที่สำหรับเด็ก พ่อแม่ และครู ได้เรียนรู้ เล่น และค้นหาโลกวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก
45. ยูไนเต็ดเนชั่น ดีเวลโลปเม้นท์ โปรแกรม
http://www.undp.or.th
UNDP United Nations Development Programme Country Office in Thailand
46. ยูเอ็นเอสแคป
http://www.unescap.org
คณะผู้แทนเศรษฐกิจและสังคม องค์การสหประชาชาติ สำหรับเอเชียและเอเชียแปซิฟิก สำนักงานกรุงเทพฯ
47. ระบบการชลประทานรูปแบบใหม่
http://www.watercontrol.org
หน่วยงานขององค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค นำเสนอข่าวสาร การอบรม
48. ศูนย์กฎหมายภูมิภาคแม่น้ำโขง
http://www.mekonglawcenter.org
เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งดำเนินงานด้านกฎหมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา ลาว ไทย
49. ศูนย์ประสานงานสมาคมป้องกันภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
http://cpa.t35.com
เป็นสมาคมที่จะช่วยเหลือสังคมไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนและเป็นงานด้านสาธารณประโยชน์ แนะนำสมาคม นายกสมาคม
50. ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาท้องถิ่นขอนแก่น
http://www.traincenter-kk.com
ดำเนินงานด้านการจัดฝึกอบรมในสาขาวิชากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ การจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ
51. ศูนย์พัฒนาชีวิต
http://www.ldcl.org
อาสาสมัครเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ตู้ ป.ณ. 300 เชียงใหม่ 50000
52. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ
http://www.nectec.or.th/atc
รายละเอียดของศูนย์ ข่าวประกาศ เว็บบอร์ด คณะทำงาน แนะนำผลงาน อาทิ พจนานุกรมภาษามือไทย
53. สต็อปเอฟที
http://www.stopft.com
จัดทำขึ้นโดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร่วมมือกับสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค
54. สถานจัดการและอนุรักษ์พลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
http://www.emac.eng.cmu.ac.th
องค์กรที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน โดยที่ไม่มุ่งค้าหากำไร (Non-profit Organization)
55. สถาบันเพื่อการพัฒนากิจกรรมนอกหลักสูตร
http://www.idea-th.com
แหล่งเรียนรู้ สร้างความดี สร้างสิ่งดี ๆ นอกห้องเรียน ทำหน้าที่ในการจัดการ พัฒนา และเผยแพร่
56. สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
http://www.thaieei.com
สถาบันอิสระที่จัดตั้งโดยรัฐบาลสำหรับส่งเสริมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย
57. สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา
http://www.itd.chula.ac.th
สถาบันเสริมสร้างศักยภาพของประเทศกำลังพัฒนา ในด้านการค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาในภูมิภาค
58. สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ
http://www.icomosthai.org
องค์กรวิชาชีพทางมรดกทางวัฒนธรรมในระดับสากล ทำงานเพื่อการอนุรักษ์และปกป้องคุ้มครองโบราณสถาน
59. สภาการเหมืองแร่
http://www.miningthai.org
เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติเป็นสถาบันซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้ประกอบอุตสาหกรรมและธุรกิจ

60. สภาทนายความภาค 6
http://www.lawsociety6.org
ข้อมูลเกี่ยวกับสภาทนายความภาค 6 แนะนำคณะกรรมการ มีบทความกฎหมาย แบบทดสอบความรู้เบื้องต้นกฎหมาย
61. สภาอุตสาหกรรม จังหวัดชัยนาท
http://www.ftichainat.or.th
ข้อมูลเกี่ยวกับสภาอุตสาหกรรม จังหวัดชัยนาท ความเป็นมา บทบาทหน้าที่ มีบทความและสาระน่ารู้ทั่วไป
62. สภาอุตสาหกรรม จังหวัดนครราชสีมา
http://ftikorat.8m.com
องค์กรเอกชนที่ไม่มุ่งผลกำไร ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และเป็นศูนย์รวมของสมาชิก
63. สมาคมผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนาแห่งเอเชียแปซิฟิก
http://www.apwld.org
ตั้งอยู่ที่ ถนนช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่ มีบทบาทในการให้ความรู้แก่ผู้หญิง การปกป้องสิทธิมนุษยชน
64. สมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย (สฟสท.)
http://www.tieathai.org
เป็นองค์กรทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม
65. สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย
http://www.tpia.org
จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยเพื่อให้เกิดการพัฒนาในอุตสาหกรรมพลาสติกไทยและเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ
66. สันติภาพและความยุติธรรมของผู้หญิงระหว่างประเทศ
http://www.womenforpeaceandjustice.org
องค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ทำงานด้านผู้หญิงต่อความยุติธรรมและสันติภาพของผู้หญิงระหว่างประเทศ
67. องค์กร แรงงานเด็ก ในเอเชีย
http://www.cwa.tnet.co.th
เครือข่ายองค์กร NGO ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กในประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย
68. องค์กรบริการข้อมูลและฝึกอบรมแรงงาน
http://www.workers-voice.org
ข้อมูลหน่วยงาน พื้นที่ปฏิบัติงาน กิจกรรม ข่าวสารต่าง ๆ ของ องค์กรบริการข้อมูลและฝึกอบรมแรงงาน
69. องค์กรพัฒนาทรัพยามนุษย์ ในเอเชีย
http://www.aphd.or.th
องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาทรัพยามนุษย์ เสนอข้อมูลองค์กร โครงการต่าง ๆ รายงานประจำปี
70. องค์กรเยซูอิตสงเคราะห์ผู้ลี้ภัย ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
http://www.jrs.or.th
องค์การกุศล NGOs ที่ปฏิบัติงานครอบคลุมแถบภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
71. องค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย
http://bkk.loxinfo.co.th/~aithnd
องค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย เป็นสาขาของ องค์การนิรโทษกรรมสากล ซึ่งเป็นองค์การเคลื่อนไหว
72. องค์การแรงงานระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน
http://www.iom-seasia.org
เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิของแรงงานอพยพ บริหารจัดการแรงงานอพยพอย่างเป็นระบบ ระเบียบ
73. องค์การแอ็คชันเอด ประเทศไทย
http://www.action-4-change.org
องค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ มีเป้าหมายการทำงานเพื่อขจัดความยากจนให้หมดไปจากโลก
74. อีซีพีเอที อินเตอร์เนชัลแนล
http://www.ecpat.net
เครือข่ายขององค์กรไม่แสวงผลกำไร ดำเนินงานเพื่อหยุดยั้งการค้าประเวณีเด็ก สื่อลามกเด็ก และการล่อลวง
75. อีสานเซอร์ไวซ์เวอร์
http://www.isan-survivor.org
เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แนะนำองค์กร อาสาสมัคร รูปภาพ และกิจกรรมต่างๆ
76. เอ็นซีซีเอ็ม
http://www.nccm.th.com
ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ ผู้เร่ร่อน ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์ นักโทษ
77. แอ๊ดดร้าประเทศไทย
http://www.adra.or.th
หน่วยพัฒนาและบรรเทาทุกข์มูลนิธิคริสตจักรวันเสาร์แห่งประเทศไทย มุ่งพัฒนาและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย
78. ไอเน็บเน็ทเวิร์ค
http://www.inebnetwork.org
เครือข่ายประสานงานพุทธศาสนาระหว่างประเทศ ดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างศาสนาต่างๆทั่วโลก

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เรื่องของทุนนิยม


เรื่องของทุนนิยม
เป็นไปไม่ได้เลยที่ประชาธิปไตยจะได้มาจากพื้นฐานของทุนนิยม
และเชื่อเถอะว่า ทุนนิยม ไม่ได้มาจากความเป็นประชาธิปไตย...
การแข่งขันไม่ใช่ประชาธิปไตย ดังนั้นการกำจัดคู่แข่งก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
การช่วยเหลือเกื่อกูลกัน ประคับประคองกัน นั่นละคือพื้นฐานของประชาธิปไตย
ดังนั้นประชาธิปไตย จึงมาจากภายในจิตสำนึกของบุคคล
ถ้ายังอาศัยความโลภ ยึดถือเงินเป็นพระเจ้าอยู่ ยึดมั้นในผลประโยชน์ตนอยู่
ประชาธิปไตยก็จะไม่เกิด
จะมีแต่เผด็จการเท่านั้นที่เป็นรากเหง่า พร้อมที่จะก่อตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ เมื่อมันมีอำนาจ

It is impossible to have democracy on the basis of capitalism. 
I believe that capitalism and democracy are not from ... 
Race undemocratic Thereby eliminating a competitor is not democratic. 
Helping each other nearly closed support each other That's the basis of democracy 
so democracy It comes from within a person's consciousness. 
It also relies on greed Money is God in the Sahel Secures it in benefit themselves. 
Democracy is not 
But the dictatorship is the only root it though. Ready to be formed at any time. When it has the power
(Translation by Google)

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ไม่เข้าใจจริงๆกับเธอคนนี้



ไม่มีใครให้เข้าที่ประชุม และแถมตอนเลิกประชุม ก็ไม่มีใครสนใจอีก ไม่เข้าใจจริงๆว่าจะทำอย่างนี้ไปทำไม?

9 ส.ค.57  เมื่อช่วงเช้า นางลีน่า จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง เจ้าของสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ็อตทีวี ซึ่งถูกคำสั่ง คสช.ปิด สถานีโทรทัศน์ ได้เดินทางเข้ามาร่วมงาน "เส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย" ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต
ทั้งนี้ นางลีน่าจัง ได้เดินทางมาในช่วงเช้าเพื่อขอเข้าร่วมงาน และเสนอชื่อตนในฐานะตัวแทนพรรคการเมือง เข้าเป็น สปช.แต่ได้ถูกสารวัตรทหารควบคุมตัวไว้ และขอให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดให้ และไม่อนุญาตให้เข้าร่วมงาน
โดย นางลีน่าจัง กล่าวว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าร่วมงาน ทั้งที่ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งตนอยากเป็น สปช.และจะเดินทางไปสมัครกับ กกต.ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ เพราะอยากได้เงินเดือน สปช.เพราะธุรกิจที่ตนทำอยู่ประสบภาวะขาดทุน จากการถูกปิดโดย คสช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช.กล่าวเปิดงานเสร็จและเดินทางกลับ ทหารจึงอนุญาตให้นางลีน่าจังเข้ามาในงานได้

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เบื่อพวกทวงหนี้


ผมละเบื่อ เบื่อจริงๆกับพวกทวงหนี้ ยอมรับว่าบางครั้งก็สุดทนเหมือนกัน มาทวงแล้วลูกหนี้ไม่มีให้ก็ด่า ก็ขู่ สารพัด ทำไมพวกลูกหนี้ทั้งหลายไม่แจ้งความเอากับมันบ้าง ข่มขู่ หรือสบประมาท แต่ถ้ามันบุกเข้ามาในบ้านละก็ แจ้งข้อหาบุกรุกซะเลย ทำให้เห็นกันจะๆ แล้วเอามาลงข่าว ลง Facebook ให้ผู้คนได้รับรู้
ถ้ามันดีและทำถูกต้องจริงๆ มันควรจะไปฟ้องศาลให้ศาลเขาพิจารณา ไม่จำเป็นต้องมาข่มขู่กันอย่างนี้

น่าจะรู้นะว่าบางคนเขาก็ไม่มีจริงๆ และไม่รู้ว่าจะเอาที่ไหนมาให้ ถึงจะด่าจนไม่มีเสียงเขาก็ไม่มีให้หรอก บางทีเขาก็ไม่ให้ดื่อๆ เพราะไม่พอใจที่มันมาด่า มาขู่กัน ถ้าอยากได้เงินคืนก็ไปฟ้องศาลเอา จะกลายเป็นอย่างนั้นไป (แต่ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นถึงจะถูกต้อง)

ถ้าพูดกันดีๆ รู้จักอรุ่มอร่วย รู้จักผ่อนปรนบ้าง ผมเชื่อว่าไม่มีใครที่อยากเป็นหนี้ไปตลอดชีวิตหรอก เขามีเขาก็จะจ่ายให้เองนั่นละ แต่ถ้าไม่มั่นใจเขาก็ไม่ต้องให้เขายืม จะได้ไม่เป็นปัญหา

คุณว่าจริงไหม?

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สนช. ลงดาบสาวกทักษิณ

สนช. ลงดาบสาวกทักษิณ

........การลงโทษขบวนการสาวกระบอบทักษิณแบบยกแก๊งครั้งนี้จะเป็นการวัดใจสนช.ซึ่งความจริงก็คือร่างทรงของคสช.ว่า จะยึดความถูกต้องและขจัดสิ่งชั่วร้ายของแผ่นดิน หรือจะใช้กรณีนี้เป็นเครื่องมือต่อรองอะไรบางอย่างกับบรรดาสาวกระบอบทักษิณเหล่านี้ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าเหล่าสาวกระบอบทักษิณเตรียมแปลงร่างไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายใต้การสนับสนุนของขบวนการสีเขียวเพื่อแลกกับการรอดตายหมู่ยกแก๊ง
....................................................................
http://www.naewna.com/creative/115233

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มันแปลกๆ ทำไมธาริตรื้อบ้านก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้า


         วันนี้ (5 ส.ค.)  กรณีบ้านพัก 2 หลังที่ปลูกอยู่บนเขาตั้งอยู่ด้านหลังและอยู่ในเขตรั้วเดียวกันรวมทั้งมีถนนเชื่อมต่ออย่างชัดเจนกับโฮมสเตย์ ฟีออร์เร่ ปาร์ค(Fiore Park Home stay) และบ้านพักตากอากาศหรูหลังใหญ่ เลขที่ 444 หมู่ที่ 11 บ้านมอกระหาด ต.หนองน้ำแดง อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ของ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบพื้นที่หลายครั้ง ระบุว่า ก่อสร้างบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างใน โซน C ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ ไม่สามารถให้เช่าใช้ประโยชน์ได้      
       ล่าสุดบ้านทั้ง 2 หลังดังกล่าวได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20-30 คนเข้าไปทำการรื้อถอนและทุบทิ้งเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 4 ส.ค. ก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะนำกำลังเข้าไปดำเนินการรื้อถอนตามกำหนดเดิมในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.)
...........................................................................
www.manager.co.th

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทางเท้าเป็นของใครกันแน่???ปัญหาคาใจ ที่ราชการต้องเข้าแก้ไขโดยเร่งด่วน




     ทางเท้าเป็นของประชาชนทุกคน ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง การกระทำเช่นนี้ไม่ควรมีในสังคมไทยต่อไป ริมถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ไกล้สี่แยกติวานนท์ บอกตรงๆเดินกันลำบากมาก เด็กๆไปโรงเรียนบางครั้งต้องออกมาเดินกันบนถนน ตอนที่รถมาก
ประชาธิป-ไตร-ในบ้าน
https://www.facebook.com/Democracy.In.the.House
http://democracyinthehouse.blogspot.com/



     การกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างสุดๆ ของพวกผู้ที่ทำธุรกิจ คือ เอาผลประโยชน์ตนไว้ก่อน ความเดือดร้อนของผู้อื่นเอาไว้ที่หลัง คือไม่สนใจของๆส่วนรวม จะเอาแต่ส่วนตัวก่อน ประเทศไทยมีพวกพันธ์นี้เยอะมากๆ หนวยงานราชการมีปัญญาทำอะไรหรือเปล่าละ

สมควรจะได้มีการยื่นฟ้องเพื่อให้มีการยุบพรรคเพื่อไทยต่อไป



     หลังจากที่ ป.ป.ช. ได้มีมติ 7 ต่อ 0 ชี้มูลถอดถอน นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทษฐานละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นการนโยบายของพรรคเพื่อไทยในแถลงต่อรัฐสภา หรือที่ประชาชนตัดสินใจเลือก สส.พรรคเพื่อไทยเข้ามาดำเนินตามนโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด (ตามคำโฆษณาหาเสียงเรื่อง นโยบายจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ด เกวียนละ 15,000 บาท เมื่อ 28 เมษายน พ.ศ. 2554)
     “...ที่เป็นปัญหาทุกวันนี้ คือระบบประกันเป็นระบบที่ไม่ถึงมือชาวบ้าน พรรคเพื่อไทยจึงนำวิธีรับจำนำมาใช้ คือ ผลิตข้าวได้เท่าไหร่ ก็ได้ราคาขั้นต่ำเท่าของรัฐบาล ข้าวเปลือกเกวียนละ 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 20,000 บาท นี่คือราคาจำนำของพรรคเพื่อไทย อันเนื่องมาจากต้นทุนข้าวราคามักสูงขึ้นทุกวัน” 
     นส.ยิ่งลักษณ์ยังเคยกล่าวหาเสียงต่อประชาชนจำนวนมากที่มาต้อนรับ อีกว่า "ที่เป็นปัญหาทุกวันนี้ คือระบบประกันเป็นระบบที่ไม่ถึงมือชาวบ้าน พรรคเพื่อไทยจึงนำวิธีรับจำนำมาใช้ คือ ผลิตข้าวได้เท่าไหร่ ก็ได้ราคาขั้นต่ำเท่าของรัฐบาล ข้าวเปลือกเกวียนละ 15,000 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิเกวียนละ 20,000 บาท นี่คือราคาจำนำของพรรคเพื่อไทย"
      แต่สุดท้ายโครงการจำนำข้าวก็ไม่ต่างไปจากนโยบายอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทยที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า เช่น
โครงการทำเขื่อนแล้วถมทะเลลงไป ไเพื่อด้พื้นที่ใหม่ประมาณ 300 ตารางกม. หรือประมาณเกือบ 2 แสนไร่ ที่จะสร้างเมืองใหม่ !!
      โครงการพัฒนา 25 ลุ่มน้ำ และการผันน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน  โครงการรถไฟฟ้า 10 สายเก็นค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โครงการพักหนี้ครัวเรือน 5 ปี โครงการกองทุนตั้งตัวได้ โครงการคืนภาษีผู้ซื้อรถยนต์คันแรก/บ้านหลังแรก โครงการปรับภาษีพลังงานน้ำมัน โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ฯลฯ
      หลายๆ โครงการไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนที่จะลงโฆษณาหาเสียง ก็เท่ากับว่าเป็นนโยบายที่โกหกหลอกลวงประชาชน เช่นเดียวกับโครงการจำนำข้าวที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้มีการขาดทุนอย่างมโหฬาร สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างที่ประเมินค่าไม่ได้

     นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันนี้ (8 พฤษภาคม) ว่า  "....จึงมีมติ 7 ต่อ 0 เสียงว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการส่อว่าจงใจใช้อํานาจหน้าที่ขัดต่อ บทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 178 และส่อว่าจงใจใช้อํานาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ มาตรา 11 (1) อันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตําแหน่งตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 270…”

นส.ยิ่งลักษณ์ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในโครงการจำนำข้าว ซึ่ง นส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่า โครงการจำนำข้าวเกี่ยวข้องกับนโยบายที่พรรคใช้หาเสียง
“เป็นนโยบายเร่งด่วนที่แถลงต่อรัฐสภาและมีผลผูกพัน” 
“นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กขช.มีอำนาจหน้าที่สั่งยกเลิกโครงการจำนำข้าว”
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ก็ยังเป็นพยานขึ้นแก้ต่างให้แก่ นส.ยิ่งลักษณ์ว่า  โดยยืนยังว่า “สาเหตุที่นายกรัฐมนตรี นส.ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถระงับยังยั้งหรือยกเลิกโครงการได้ เพราะเป็นนโยบายที่เคยหาเสียงและแถลงต่อรัฐสภาไว้”
     นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้เป็นพยานแก้ต่างอีกคนหนึ่งโดยปักใจเชื่อว่า โครงการช่วยเหลือชาวนาด้วยการแทรกแซงราคาข้าวนั้น  มีมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เมื่อปี 2536 ไม่น่าจะมีการทุจริต”
เช่นเดียวกันนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ไปแก้ต่างแทน นส.ยิ่งลักษณ์ต่อ ปปช.ว่า “นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องทำตามนโยบายหาเสียง(และแถลงต่อรัฐสภา) และโครงการนี้เป็นการบริหารอุปทาน”  (อ้างอิง สกู๊ปข่าว คมชัดลึก 3 พ.ค.57)
     ซึ่งหมายความว่า เมื่อตลาดข้าวโลกมีราคาลดต่ำลง รัฐบาลซึ่งมีข้าวอยู่ในโครงการจำนำข้าวย่อมต้องระบายข้าวในราคาที่ตำกว่า 15,000 บาทต่อตันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลของการดำเนินตามโครงการจำนำข้าวกลับทำให้มีการบิดเบือนกลไกตลาดข้าว  แล้วยังทำให้โครงการจำนำข้าวประสบกับภาวะขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทอีกด้วย แม้นายยรรยง พวงราชจะแก้ต่างในการสอบสวนของ ปปช.ว่าข้อมูลจากคณะกรรมการปิดบัญชีและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ยังไม่ได้ข้อยุติว่าขาดทุนก็ตาม
แต่ข้อเท็จจริง คือประสบภาวะขาดทุนอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังสงสัยในวิธีการคำนวนตัวเลขทางบัญชีเท่านั้นเอง
นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า  “รัฐบาลยังมีการปกปิดตัวเลขผลขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว เพราะกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ต่างก็มีตัวเลขผลการดำเนินงานที่ไม่ตรงกัน และก็เชื่อว่ามีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น”
รัฐมนตรีที่ไปแก้ต่างต่อ ปปช.ล้วนไม่มีใครกล้าพูดถึงผลกระทบในระดับจุลภาค หรือภาคประชาชน เช่น
การที่มีชาวนาได้ ผูกคอตายไปแล้วกว่าสิบคน หรือแทบจะไม่มีรัฐมนตรีคนไหนที่กล้าแก้ต่างถึงสาเหตุที่ชาวนาได้รับเงินค่าประทวนล่าช้า หรือยังไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าวอีกหลายหมื่นราย

     ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงเป็นมูลที่ฟ้องต่อไปได้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ รัฐมนตรีที่ดูแลโครงการจำนำข้าวทำงานโดยขาดความรับผิดชอบ ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม สร้างผลเสียหายอย่างร้ายแรงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชาวนา
จึงถือว่าขัดต่อมาตรา 94 (4) กระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร หรือขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ระบุว่า “มาตรา 94 และปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรค การเมืองผู้ใดมีส่วนร่วม รู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำดังกล่าวแล้วมิได้ยับยั้ง หรือแก้ไขการกระทำดังกล่าว ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและ กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น มีกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมือง”

     เมื่อ ปปช.ได้ชี้มูลความผิดของน ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว ก็จะได้มีการส่งเรื่องต่อวุฒิสภาเพื่อยื่นเรื่องถอนถอนและตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลาห้าปี และยังต้องไต่สวนเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไปอีกด้วย
แต่เมื่อทุกฝ่ายยืนยันว่า โครงการจำนำข้าว เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ใช้หาเสียงและแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว จึงไม่สามารถเลิกโครงการได้แม้จะถูกทักท้วงให้ยกเลิกโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม

     เรื่องนี้ผู้เขียนจึงเห็นว่า สมควรจะได้มีการยื่นฟ้องเพื่อให้มีการยุบพรรคเพื่อไทยต่อไปอีกคำรบหนึ่ง  ตามเหตุผลที่ยกมาอ้างทั้งหมดนั้นแล้ว

     และใครจะเป็นผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ...และใครเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
ถ้าไม่ใช่ “คนไทยทุกคน” ที่จะต้องฟ้องร้องเอาผิดกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
เพื่อ... ยุบพรรคเพื่อไทย

ถึงหน่วยงานในจังหวัดนนทบุรี


     สงสัยว่าคงต้องยอมสละชีวิตผู้คนก่อน แล้วเป็นข่าว เทศบาลจังหวัดนนทบุรี ถึงจะออกมาแก้ไขปัญหาจุดนี้
....ทางเท้าของประชาชนหายไปไหน เคยใส่ใจทำอะไรกันบ้าง มีสภาพแบบนี้มานานแล้ว ไม่เห็นจะเข้ามาดูแลเลย

....มัวทำอะไรกันอยู่ครับ หรือว่าเงินไม่ถึงเลยไม่ทำ.....

(เงินเดือนไม่มีหรือครับ)

ประชาธิป-ไตร-ในบ้าน Facebook

ป.ป.ช. สำนวนการสอบสวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้อัยการพิจารณา

      
      นายวิศิษย์ ตันอารีย์ เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ได้นำสำนวนการสอบสวนจำนวน 5 ลัง 30 แฟ้ม รวมกว่า 4,000 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เรื่องละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ จากกรณีทุกจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ภายหลัง ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ว่าการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดดังกล่าว เพื่อให้อัยการพิจารณาความเห็นสั่งฟ้อง และดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีนายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายพิบูลย์ จตุพัฒนกุล รองเลขานุการอัยการสูงสุด นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด และนางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนผู้รับมอบสำนวนการสอบสวนจาก ป.ป.ช.
..........................................................................
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000088758

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535

พระราชบัญญัติ
รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
พ.ศ. 2535 



ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำ และยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535"
มาตรา 2* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับในเขตเทศบาล สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
*[รก.2535/15/28/28 กุมภาพันธ์ 2535]
สำหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จะให้ใช้พระราชบัญญัตินี้บังคับใน เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัดใด ในท้องที่ใด มีบริเวณเพียงใด และจะให้ใช้ บังคับทั้งหมดทุกมาตราหรือยกเว้นมาตราใด ให้กระทรวงมหาดไทยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับองค์การปกครองท้องถิ่นอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่งและ วรรคสอง การใช้บังคับตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศ
มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็น ระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"ที่สาธารณะ" หมายความว่า สาธารณสมบัติของแผ่นดินนอกจาก ที่รกร้างว่างเปล่า และหมายความรวมถึงถนนและทางน้ำด้วย
"สถานสาธารณะ" หมายความว่า สถานที่ที่จัดไว้เป็นสาธารณะ สำหรับประชาชนใช้เพื่อการบันเทิง การพักผ่อนหย่อนใจ หรือการชุมนุม
"ถนน" หมายความรวมถึง ทางเดินรถ ทางเท้า ขอบทาง ไหล่ทาง ทางข้ามตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ตรอก ซอย สะพาน หรือ ถนนส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของยินยอมให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรได้
"ทางน้ำ" หมายความว่า ทะเล ทะเลสาบ หาดทรายชายทะเล อ่างเก็บน้ำ แม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง คันคลอง บึง คู ลำราง และหมายความ รวมถึงท่อระบายน้ำด้วย
"อาคาร" หมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน เรือ แพ ตลาด คลังสินค้า สำนักงาน หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่ หรือเข้าใช้สอยได้ และหมายความรวมถึงอัฒจันทร์ เขื่อน ประตูน้ำ อุโมงค์ หรือป้ายตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารด้วย
"สิ่งปฏิกูล" หมายความว่า อุจจาระ หรือปัสสาวะ รวมตลอดถึง วัตถุอื่นใดซึ่งเป็นของโสโครกหรือมีกลิ่นเหม็น
"มูลฝอย" หมายความว่า เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้า ถุงพลาสติก ภาชนะที่ใส่อาหาร เถ้า มูลสัตว์ หรือซากสัตว์ รวม ตลอดถึงสิ่งอื่นใดที่เก็บกวาดจากถนน ตลาด ที่เลี้ยงสัตว์ หรือที่อื่น
"ซากยานยนต์" หมายความว่า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่อง จักรกล เรือ ล้อเลื่อน ยานพาหนะอื่น ๆ ที่เสื่อมสภาพจนไม่อาจใช้การได้ และหมายความรวมถึงชิ้นส่วนของรถ เครื่องจักรกล หรือยานพาหนะ
"เจ้าพนักงานท้องถิ่น" หมายความว่า
(1) นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล
(2) ประธานกรรมการสุขาภิบาล สำหรับในเขตสุขาภิบาล
(3) ผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
(5) ปลัดเมืองพัทยา สำหรับในเขตเมืองพัทยา
(6) หัวหน้าผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การปกครองท้องถิ่นอื่นที่กฎหมาย กำหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น สำหรับในเขตราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
"พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า
(1) ปลัดเทศบาล และรองปลัดเทศบาล สำหรับในเขตเทศบาล
(2) ปลัดสุขาภิบาล สำหรับในเขตสุขาภิบาล
(3) ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายอำเภอ สำหรับในเขต องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(4) ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขต และผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร
(5) รองปลัดเมืองพัทยา สำหรับในเขตเมืองพัทยา
(6) ผู้ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้
"ราชการส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า เทศบาล สุขาภิบาล องค์การ บริหารส่วนจังหวัด กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์การปกครอง ท้องถิ่นอื่นที่กฎหมายกำหนดให้เป็นราชการส่วนท้องถิ่น
"ข้อกำหนดของท้องถิ่น" หมายความว่า ข้อบัญญัติ เทศบัญญัติ หรือ ข้อบังคับซึ่งตราขึ้นโดยราชการส่วนท้องถิ่น
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออก กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และ กำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของแต่ละกระทรวง
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด 1
การรักษาความสะอาดในที่สาธารณะและสถานสาธารณะ
________
มาตรา 6 เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือบริเวณของอาคาร ที่อยู่ติดกับทางเท้า มีหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดทางเท้าที่อยู่ติดกับอาคาร หรือบริเวณของอาคาร
ในกรณีที่เป็นตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่ขายอาหารหรือสินค้าประจำ ทุกวันหรือเฉพาะคราว ให้เจ้าของตลาดมีหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดทางเท้า ที่อยู่ติดกับตลาด และให้ผู้ครอบครองส่วนหนึ่งส่วนใดของตลาดมีหน้าที่รักษา ความสะอาดบริเวณตลาดที่ตนครอบครอง
ในการรักษาความสะอาดตามมาตรานี้ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคารหรือบริเวณของอาคาร เจ้าของตลาด หรือผู้ครอบครองส่วนหนึ่งส่วนใด ของตลาด จะมอบหมายให้คนหนึ่งคนใดหรือหลายคนเป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาความ สะอาดแทนตนก็ได้ และให้ผู้ได้รับมอบหมายมีหน้าที่และความรับผิดแทนผู้มอบหมาย ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้และพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัว ผู้รับมอบหมายได้ ให้ถือว่าไม่มีการมอบหมาย และให้เจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคารหรือบริเวณของอาคาร เจ้าของตลาด หรือผู้ครอบครองส่วนหนึ่งส่วนใด ของตลาด เป็นผู้รับผิดในการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้
มาตรา 7 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 6 ให้บุคคลตามมาตรา 6 มีอำนาจแจ้งผู้กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้มิให้กระทำการหรือให้แก้ไข การกระทำอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้ถูกแจ้งหรือผู้ถูกห้าม ไม่ปฏิบัติตาม ให้รีบแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 51 เพื่อใช้ เป็นหลักฐานว่าตนมิได้กระทำความผิดตามมาตรานี้
มาตรา 8 เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือที่ดินผู้ใด
(1) วางกระถางต้นไม้บนทางเท้าหรือปลูกต้นไม้ที่บริเวณภายนอก อาคารที่ตนเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง และปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้ เหี่ยวแห้งหรือมีสภาพรกรุงรัง หรือปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ในกระถางต้นไม้หรือที่บริเวณภายนอกของอาคาร
(2) ปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้หรือธัญพืชที่ตนปลูกไว้หรือที่ขึ้นเองใน ที่ดินของตนให้เหี่ยวแห้งหรือมีสภาพรกรุงรัง หรือปล่อยปละละเลยให้มีการ ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน
ถ้าการปล่อยปละละเลยตาม (2) มีสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จาก ที่สาธารณะ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 9 ห้ามมิให้ผู้ใดอาบน้ำหรือซักล้างสิ่งใด ๆ บนถนน หรือ ในสถานสาธารณะซึ่งมิได้จัดไว้เพื่อการนั้น หรือในบริเวณทางน้ำที่เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นได้ประกาศห้ามไว้
มาตรา 10 การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง หรือโปรยแผ่นประกาศหรือ ใบปลิวในที่สาธารณะ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือ เงื่อนไขที่กำหนดในหนังสืออนุญาตด้วย
การขออนุญาต การอนุญาต การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม และการ งดเว้นค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน กฎกระทรวง และในกฎกระทรวงดังกล่าวต้องกำหนดให้ชัดเจนว่ากรณีใดพึง อนุญาตได้หรืออนุญาตไม่ได้ และกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต ไว้ด้วย
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่นหรือรัฐวิสาหกิจหรือของหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้ หรือ เป็นการโฆษณาด้วยการปิดแผ่นประกาศ ณ สถานที่ซึ่งราชการส่วนท้องถิ่น จัดไว้เพื่อการนั้น หรือเป็นการโฆษณาในการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร และการโฆษณาด้วยการปิดประกาศของเจ้าของหรือ ผู้ครอบครองอาคารหรือต้นไม้ เพียงเพื่อให้ทราบชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครอง อาคาร ชื่ออาคาร เลขที่อาคาร หรือข้อความอื่นเกี่ยวแก่การเข้าไปและ ออกจากอาคารนั้น
มาตรา 11 การโฆษณาตามมาตรา 10 โดยมิได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตแต่มิได้ปฏิบัติ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในการอนุญาต ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งเป็นหนังสือให้ผู้โฆษณาปลด รื้อ ถอน ขูด ลบ หรือล้างข้อความหรือภาพนั้นภายในเวลาที่กำหนด
ถ้าการโฆษณาดังกล่าวตามวรรคหนึ่งมีข้อความหรือภาพที่มีผลกระทบต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือลามกอนาจาร พนักงาน เจ้าหน้าที่มีอำนาจปลด รื้อ ถอน ขูด ลบ หรือล้างข้อความหรือภาพนั้นได้เอง โดยคิดค่าใช้จ่ายจากผู้โฆษณาตามที่ได้ใช้จ่ายไปจริง
มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ ปรากฏด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใด ๆ ที่กำแพงที่ติดกับ ถนน บนถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่อยู่ติดกับถนนหรืออยู่ใน ที่สาธารณะ เว้นแต่เป็นการกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้
มาตรา 13 เจ้าของรถซึ่งใช้บรรทุกสัตว์ กรวด หิน ดิน เลน ทราย สิ่งปฏิกูล มูลฝอยหรือสิ่งอื่นใด ต้องจัดให้รถนั้นอยู่ในสภาพที่ป้องกันมิให้มูลสัตว์ หรือสิ่งดังกล่าวตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้ง กระจายลงบนถนนในระหว่างที่ใช้ รถนั้น รวมทั้งต้องป้องกันมิให้น้ำมันจากรถรั่วไหลลงบนถนน
ถ้ามีกรณีดังกล่าวตามวรรคหนึ่งเกิดขึ้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานจราจรหรือตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรมีอำนาจสั่งให้ ผู้ขับขี่นำรถไปที่สถานีตำรวจ ที่ทำการขนส่ง หรือสำนักงานขององค์การปกครอง ท้องถิ่น และยึดรถนั้นไว้จนกว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถจะชำระค่าปรับ
มาตรา 14 ห้ามมิให้ผู้ใด
(1) ปล่อยสัตว์ นำสัตว์ หรือจูงสัตว์ไปตามถนนหรือเข้าไปในบริเวณ ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ประกาศห้ามไว้
(2) ปล่อยให้สัตว์ถ่ายมูลบนถนนและมิได้ขจัดมูลดังกล่าวให้หมดไป
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ผู้ได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นให้นำขบวนสัตว์หรือฝูงสัตว์หรือจูงสัตว์ไปตามถนน และได้เสียค่าธรรมเนียม รักษาความสะอาดตามข้อกำหนดของท้องถิ่น
มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดล้างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน บนถนนหรือสถานสาธารณะ และทำให้ถนนหรือสถานสาธารณะสกปรกเลอะเทอะ
มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของถนนเป็นสถานที่ซ่อม เปลี่ยนแปลง ต่อเติม หรือติดตั้งอุปกรณ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การแก้ไขรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนที่เครื่องยนต์ขัดข้องหรืออุปกรณ์ชำรุดขณะใช้ถนน เพื่อให้รถหรือ ล้อเลื่อนดังกล่าวใช้การได้ต่อไป
มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใด
(1) กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ทางเท้าชำรุดเสียหาย
(2) จอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน บนทางเท้า เว้นแต่เป็นการจอดหรือขับขี่เพื่อเข้าไปในอาคารหรือมีประกาศของ เจ้าพนักงานจราจรผ่อนผันให้จอดหรือขับขี่ได้
มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือ สถานสาธารณะ
มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน เว้นแต่เป็นการกระทำในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกาศกำหนดด้วยความเห็นชอบของเจ้าพนักงานจราจร
มาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใด
(1) ปรุงอาหาร ขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนน หรือในสถานสาธารณะ
(2) ใช้รถยนต์หรือล้อเลื่อนเป็นที่ปรุงอาหารเพื่อขายหรือจำหน่าย ให้แก่ประชาชนบนถนนหรือในสถานสาธารณะ
(3) ขายหรือจำหน่ายสินค้าซึ่งบรรทุกบนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อน บนถนนหรือในสถานสาธารณะ
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การปรุงอาหารหรือการขายสินค้า
ตาม (1) หรือ (2) ในถนนส่วนบุคคลหรือในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศผ่อนผันให้กระทำได้ในระหว่างวัน เวลาที่กำหนดด้วย ความเห็นชอบของเจ้าพนักงานจราจรมาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้อยู่ในรถยนต์หรือผู้ขับขี่หรือผู้นั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ ซื้อสินค้าที่ขายหรือจำหน่ายในสถานสาธารณะหรือบนถนน ยกเว้นถนนส่วนบุคคล
มาตรา 22 ห้ามมิให้ผู้ใดจูง ไล่ หรือต้อนสัตว์ลงไปในทางน้ำซึ่ง เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศห้ามไว้ ณ บริเวณ ดังกล่าว
มาตรา 23 ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือทิ้งกรวด หิน ดิน เลน ทราย หรือเศษวัตถุก่อสร้างลงในทางน้ำ หรือกองไว้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้วัตถุดังกล่าวไหลหรือตกลงในทางน้ำ
ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำการ ตามวรรคหนึ่ง จัดการขนย้ายวัตถุดังกล่าวออกไปให้ห่างจากทางน้ำภายในระยะ เวลาที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด และถ้าการกระทำผิด ดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำหรือทำให้ท่อระบายน้ำ คู คลอง ตื้นเขิน ให้มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำการตามวรรคหนึ่งแก้ไขให้ทางน้ำดังกล่าวคืนสู่สภาพ เดิม ถ้าละเลยเพิกเฉยนอกจากมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ดำเนินคดีสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไป
มาตรา 24 เจ้าของร้านจำหน่ายอาหารและหรือเครื่องดื่มซึ่งจัด สถานที่ไว้สำหรับบริการลูกค้าได้ในขณะเดียวกันไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน ต้องจัดให้มี ส้วมที่ต้องด้วยสุขลักษณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อให้ลูกค้าใช้ใน ระหว่างเปิดทำการค้า
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่เจ้าของร้านจำหน่ายอาหารและ หรือเครื่องดื่มซึ่งจัดให้มีขึ้นในบริเวณงานเทศกาลหรืองานใดเป็นการเฉพาะ คราว
มาตรา 25 เจ้าของสถานีบริการการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหรือ ก๊าซสำหรับยานพาหนะ ต้องจัดให้มีส้วมที่ต้องด้วยสุขลักษณะตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง
หมวด 2
การดูแลรักษาสนามหญ้าและต้นไม้ในถนนและสถานสาธารณะ
_______
มาตรา 26 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย หรือเท หรือกองกรวด หิน ดิน เลน ทราย หรือสิ่งอื่นใดในบริเวณที่ได้ปลูกหญ้าหรือต้นไม้ซึ่งราชการ ส่วนท้องถิ่นราชการส่วนอื่นหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ
มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดโค่นต้นไม้ ตัด เด็ด หรือกระทำด้วยประการ ใด ๆ ให้เกิดความเสียหายหรือน่าจะเป็นอันตรายแก่ต้นไม้ หรือใบ ดอก ผล หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่ปลูกไว้หรือขึ้นเองตามธรรมชาติในที่สาธารณะ หรือสถานสาธารณะ
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำของผู้ได้รับมอบหมายจาก พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือให้โค่นหรือตัดต้นไม้จาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น
มาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยหรือจูงสัตว์เข้าไปในบริเวณที่ ราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่น หรือรัฐวิสาหกิจได้ปลูกหรืออนุญาต ให้ผู้อื่นปลูกหญ้าหรือต้นไม้ไว้ และได้ปิดประกาศหรือปักป้ายห้ามไว้
หมวด 3
การห้ามทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยในที่สาธารณะและสถานสาธารณะ
_________
มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะลงในที่สาธารณะ หรือสถานสาธารณะซึ่งมิใช่สถานที่ที่ราชการส่วนท้องถิ่นได้จัดไว้เพื่อการนั้น
มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดเท ปล่อยหรือระบายอุจจาระหรือปัสสาวะ จากอาคารหรือยานพาหนะลงในทางน้ำ
มาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใด
(1) บ้วนหรือถ่มน้ำลาย เสมหะ บ้วนน้ำหมาก สั่งน้ำมูก เทหรือทิ้ง สิ่งใด ๆ ลงบนถนนหรือบนพื้นรถหรือพื้นเรือโดยสาร
(2) ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในสถานสาธารณะนอกภาชนะหรือที่ที่ ราชการส่วนท้องถิ่นได้จัดไว้
มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใด
(1) ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยลงบนที่สาธารณะ
(2) ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ
มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือ สิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองเรือหรือ อาคารประเภทเรือนแพ ซึ่งจอดหรืออยู่ในท้องที่ที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นยังไม่ได้จัด ส้วมสาธารณะหรือภาชนะสำหรับทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย
มาตรา 34 ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือระบายอุจจาระหรือปัสสาวะจากอาคาร หรือยานพาหนะลงในที่สาธารณะหรือในสถานสาธารณะ
หมวด 4
การรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
_______
มาตรา 35 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ให้โคมไฟ ป้าย ศาลาที่พัก ม้านั่ง ส้วม หรือสิ่งอื่นใด ที่ราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่น หรือรัฐวิสาหกิจได้จัดทำไว้เพื่อสาธารณชน เกิดความเสียหายหรือใช้ประโยชน์ ไม่ได้
มาตรา 36 ห้ามมิให้ผู้ใดปีนป่าย นั่ง หรือขึ้นไปบนรั้ว กำแพง ต้นไม้ หรือสิ่งค้ำยันต้นไม้ในที่สาธารณะ
มาตรา 37 ห้ามมิให้ผู้ใดยืน นั่ง หรือนอนบนราวสะพานสาธารณะ หรือนอนในที่สาธารณะ
มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้ใดเล่นว่าว ฟุตบอล ตะกร้อ หรือกีฬาใด ๆ บนถนน หรือในสถานสาธารณะหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสถานสาธารณะ ที่มี ประกาศของเจ้าพนักงานท้องถิ่นห้ามไว้
มาตรา 39 ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ใน ที่สาธารณะ เว้นแต่ได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือเป็นการกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่นหรือ รัฐวิสาหกิจหรือของหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้ หรือเป็นการวางไว้เพียง ชั่วคราว
การติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ในที่สาธารณะโดยมิได้มี หนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาต แต่มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในการอนุญาต ให้เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำการตามวรรคหนึ่งปลด หรือรื้อถอนภายในเวลาที่กำหนด ถ้าผู้นั้นละเลย เพิกเฉย นอกจากมีความผิด ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไป
มาตรา 40 ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใด ๆ ที่ อาคาร ในลักษณะที่สกปรกรกรุงรังหรือไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยและมีสภาพ ที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ
ถ้ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
มีหนังสือเตือนให้เก็บหรือจัดทำให้เป็นที่เรียบร้อย ถ้าผู้ติดตั้ง เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองอาคารละเลย เพิกเฉย นอกจากมีความผิดฐานขัดคำสั่ง เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไปมาตรา 41 เจ้าของอาคารซึ่งตั้งอยู่ในระยะไม่เกินยี่สิบเมตรจาก ขอบทางเดินรถที่มีผิวจราจรกว้างไม่ต่ำกว่าแปดเมตร และที่ผู้สัญจรไปมา อาจเห็นอาคารหรือบริเวณของอาคารได้จากถนนนั้น ต้องดูแลรักษาอาคาร นั้นมิให้สกปรกรกรุงรัง

หมวด 5
อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
________

มาตรา 42 ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จะให้คำแนะนำผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องในการดูแลรักษาความสะอาดและความเป็น ระเบียบเรียบร้อยตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
ในเขตเทศบาล สุขาภิบาล เมืองพัทยา และองค์การปกครอง ท้องถิ่นอื่น ให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และของปลัดกระทรวง มหาดไทยสำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
มาตรา 43 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี ประธานกรรมการ สุขาภิบาล ปลัดเมืองพัทยามีหน้าที่รับผิดชอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในการปกครองบังคับบัญชาของตน
ในกรณีที่ได้มีการมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือปลัดกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เทศมนตรี หรือปลัดเทศบาล กรรมการสุขาภิบาล ปลัดสุขาภิบาล หรือผู้บริหารองค์การ ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นช่วยปฏิบัติหน้าที่ ให้ผู้ได้รับมอบหมายมีหน้าที่รับผิดชอบ เช่นเดียวกับผู้มอบหมาย
มาตรา 44 นอกจากอำนาจหน้าที่ที่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นและพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) โฆษณาให้ประชาชนได้ทราบถึงหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้
(2) สอดส่องและกวดขันไม่ให้มีการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้โดย เคร่งครัด
(3) ตักเตือนผู้กระทำความผิด หรือสั่งให้ผู้กระทำความผิดแก้ไข หรือขจัดความสกปรกหรือความไม่เป็นระเบียบหรือความไม่เรียบร้อยให้ หมดไป
(4) จับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งไม่เชื่อฟังคำตักเตือนและดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 45 เมื่อมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เกิดขึ้น ในท้องที่ใดและพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจทราบตัวผู้กระทำผิด ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นนั้นทุกคนร่วมกันขจัดหรือแก้ไขไม่ให้สิ่งที่ผิดกฎหมาย ปรากฏอยู่ในที่สาธารณะหรือสถานสาธารณะอีกต่อไป
ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจัดหาอุปกรณ์และอำนวยความสะดวกให้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการ และให้วางระเบียบการปฏิบัติการของ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 46 ในกรณีที่ได้จับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้กระทำความผิดจัดการลบ ล้าง กวาด เก็บ ตกแต่ง ปรับปรุงสิ่งที่เป็นความผิดมิให้ปรากฏอีกต่อไปภายในระยะเวลาที่ กำหนด ถ้าผู้กระทำความผิดยินยอมปฏิบัติตาม ให้คดีเป็นอันเลิกกัน ถ้า ผู้กระทำความผิดไม่ปฏิบัติตาม พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจัดทำหรือมอบหมาย ให้ผู้อื่นจัดทำให้เกิดความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้ ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเข้าจัดทำความสะอาดหรือความเป็น ระเบียบเรียบร้อยตามที่ได้ใช้จ่ายไปจริงให้แก่เจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่การ ชดใช้ค่าใช้จ่ายไม่ลบล้างการกระทำความผิดหรือระงับการดำเนินคดีแก่ ผู้กระทำความผิด
มาตรา 47 ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจประกาศกำหนดเวลา ห้ามเข้าหรืออยู่ในสถานสาธารณะ ประกาศนั้นให้ติดตั้งหรือแขวนไว้ใน บริเวณสถานสาธารณะที่ห้ามนั้นซึ่งเห็นได้ง่าย
มาตรา 48 บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงาน ท้องถิ่นหรือผู้ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นแต่งตั้งและพนักงานสอบสวนมีอำนาจ เปรียบเทียบได้ เมื่อผู้ต้องหาชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสิบห้าวัน แล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชำระ ค่าปรับภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ดำเนินคดีเพื่อฟ้องร้องต่อไป
ค่าปรับที่ได้จากการเปรียบเทียบตามวรรคหนึ่ง ให้แบ่งแก่ผู้แจ้งตาม มาตรา 51 กึ่งหนึ่ง และพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานจราจร หรือตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร ผู้จับกุมอีกกึ่งหนึ่ง
มาตรา 49 ภายใต้บังคับมาตรา 48 วรรคสาม ค่าธรรมเนียมและ ค่าปรับที่เปรียบเทียบตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่น
มาตรา 50 ในกรณีที่มีการกระทำความผิดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นและพนักงาน เจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดนั้น
พร้อมด้วยยานพาหนะ เครื่องมือ และสิ่งของที่ใช้ในการกระทำความผิดเพื่อ ดำเนินการตามกฎหมายได้ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นและพนักงานเจ้าหน้าที่แสดง บัตรประจำตัวเมื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องร้องขอ บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยกำหนด
มาตรา 51 ในกรณีที่มีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ประชาชนผู้พบเห็นอาจแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่ชักช้า และให้ ถือว่าประชาชนผู้พบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
หมวด 6
บทกำหนดโทษ
______
มาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 9 มาตรา 14 มาตรา 36 มาตรา 37 หรือมาตรา 38 หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศเจ้าพนักงาน ท้องถิ่นที่ได้ประกาศตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
มาตรา 53 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 6 มาตรา 21 หรือ มาตรา 28 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา 54 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง มาตรา 15 มาตรา 20 มาตรา 22 มาตรา 26 มาตรา 27 มาตรา 29 มาตรา 31 มาตรา 32 มาตรา 35 มาตรา 39 มาตรา 40 หรือ มาตรา 41 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
มาตรา 55 ผู้ใดขับขี่รถซึ่งบรรทุกมูลสัตว์ กรวด หิน ดิน เลน ทราย มูลฝอย หรือมีน้ำมัน และวัตถุดังกล่าวได้ตกหล่น ปลิว ฟุ้งกระจาย หรือรั่วไหลลงบนถนน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามพันบาท
มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง มาตรา 12 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง มาตรา 17 หรือมาตรา 18 ต้อง ระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา 57 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 13 วรรคหนึ่ง มาตรา 19 มาตรา 23 มาตรา 30 มาตรา 33 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 34 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 58 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 24 หรือมาตรา 25 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
นอกจากต้องระวางโทษปรับตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามมาตรา 24 หรือมาตรา 25 ต้องระวางโทษปรับอีกวันละหนึ่งร้อยบาท เรียงรายวัน จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎกระทรวง
มาตรา 59 พนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำ ความผิดตามที่มีการแจ้งความนั้น
บทเฉพาะกาล
______
มาตรา 60 บรรดาคำขออนุญาตที่ยื่นไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ การอนุญาตและใบอนุญาตที่ได้ให้ไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หรือการปฏิบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตตามที่ได้รับใบอนุญาต แล้วแต่กรณี ให้ถือว่า เป็นคำขออนุญาต การอนุญาต และใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 61 อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็น ระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่พระราช บัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงมีผลใช้ได้ต่อไปจนกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะได้วินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา 62 บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็น ระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 ให้คงใช้บังคับได้ต่อไป ทั้งนี้ เพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
อานันท์ ปันยารชุน
นายกรัฐมนตรี

อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าบริการ
_________

        ลำดับที่                              ประเภท                             จำนวนเงิน

      1.                 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปิดแผ่นประกาศ
                           หรือเขียนข้อความ หรือภาพ ติดตั้ง เขียนป้าย
                           หรือเอกสาร หรือทิ้งหรือโปรยแผ่นประกาศ
                           เพื่อโฆษณาแก่ประชาชน                               200 บาท
_____________________________
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจาก พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการรักษา ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ได้ใช้บังคับมาเป็น เวลานาน ไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับบท ลงโทษและอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น เป็นเหตุให้การดำเนินการ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองไม่ได้ผล เท่าที่ควร สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความ เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองเสียใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็น ต้องตราพระราชบัญญัตินี้