วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ใช่เวลาเป็นเครื่องมือ

วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ด้วยประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือมาถึงสภา 2 ฉบับ 1. รายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีขอให้ถอดถอนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ออกจากตำแหน่ง ซึ่งคำร้องระบุว่ามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติตามเสียงข้างมากกว่า ยังฟังไม่ได้ว่า นายกิตติรัตน์ ได้จงใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 อันเป็นเหตุถอดถอนออกจากตำแหน่ง และการกระทำของนายกิตติรัตน์ ฟังไม่ได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ข้อกล่าวหาจึงตกไป

และ 2. กรณีขอให้ถอดถอน ส.ส.ที่ร่วมลงคะแนนเห็นชอบในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผู้ซึ่งกระทำผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ.... วาระที่ 3 จำนวน 310 คนออกจากตำแหน่ง คำร้องระบุว่ามีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ป.ป.ช.พิจารณาคำร้องดังกล่าวแล้วเห็นว่าเป็นคำร้องขอให้ถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่ง มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เพียงประการเดียว ดังนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญ 2550 สิ้นสุดลงแล้วจึงไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เป็นมูลฐานของการพิจารณาซึ่งจะนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งของกระบวนการ ป.ป.ช.จึงไม่มีเหตุที่จะดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงคำร้องขอให้ถอดถอนต่อไป ที่ประชุมจึงมีมติให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

http://www.fahwonmai.tv/politics/1212793

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น