วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ฟ้อง‘ปู’ ไร้ข้อสรุป

อัยการสูงสุด แถลง ยังไม่สรุปคดีทุจริตจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ ยังไม่สมบูรณ์ รอสอบพยานเพิ่ม-สอบขายข้าวจีทูจี
................................................
................................................
ถกฟ้อง‘ปู’ไร้ข้อสรุป อสส.ยื้ออีก
สอบพยานเพิ่ม10ปาก อ้างสำนวนโกงข้าวยังไม่ปึ้ก
ปปช.โวยลั่นทำคดีวนในอ่าง สนช.ไต่สวนถอด2ปธ.27พย.
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ มีการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ครั้งที่ 3 เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีความผิดทางอาญาจากการดำเนินโครงการรับจำนำ ข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้มีการทุจริตในการดำเนินโครงการ สร้างความเสียหายแก่รัฐ
อสส.ยื้อคดีโกงข้าวไร้ข้อสรุป
หลังหารือกว่า 3 ชั่วโมงนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่าย อสส.แถลงว่า การประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ตกลงกันได้ในบางประเด็น เช่น เรื่องการสอบพยานเพิ่ม ที่ฝ่ายป.ป.ช.รับจะไปไต่สวนเพิ่มเติมให้บางราย เพื่อให้ได้ตามที่อัยการต้องการ ซึ่งความจริงต้องการให้สอบเพิ่มเติมตามที่เสนอไปทั้งหมด คาดว่าน่าจะต้องไต่สวนเพิ่มกว่า 10 ราย ครอบคลุมพยานในส่วนป.ป.ช. และพยานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ขอมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ทุกประเด็น
“เราต้องการให้พยานหลักฐานแน่นหนามากขึ้น สำหรับอัยการแล้ว เมื่อมีข้อหาไหนเข้ามาก็ต้องพิจารณาให้หมด การที่ป.ป.ช.บอกว่าไม่เน้นเรื่องทุจริต เอาเรื่องปฎิบัติหน้าที่มิชอบ แต่เมื่อในรายงานพิจารณาคดีของป.ป.ช.ระบุมีการทุจริต จำเป็นต้องทำให้ชัดเจน” นายวุฒิพงศ์ กล่าว
ดักคอปปช.ยังฟ้องเองไม่ได้
และว่า สำหรับขั้นตอนขณะนี้แม้ว่าตัวแทนจากอัยการสูงสุดกับป.ป.ช.ยังไม่สามารถสรุป ความเห็นให้ตรงกันได้ แต่ป.ป.ช.ยังไม่มีอำนาจนำคดีไปส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองได้ เนื่องจากต้องให้อัยการสูงสุดมีความเห็นให้เป็นที่สุดก่อน ซึ่งอัยการฯอาจเห็นไปในแนวทางเดียวกับป.ป.ช.ก็ได้ ถ้าครบถ้วนแล้วจะดำเนินคดี แต่ถ้าอัยการฯชี้ว่ายังต้องสอบพยานเพิ่มหรือต้องหารือบางประเด็น อาจต้องหารือกันอีกครั้ง
ปัดซื้อเวลา-อ้างต้องละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้เวลาพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้นานเป็นการยื้อเวลาหรือไม่ นายวุฒิพงศ์กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อและใช้เวลาไม่นาน เพราะกระบวนการยุติธรรมต้องทำให้ละเอียด เพื่อยืนยันว่าทุกคนจะได้รับความเป็นธรรม เพราะการทำเร็วไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดความยุติธรรม เราทำงานทุกวัน
ปปช.โวยทำคดีวนอยู่ในอ่าง
ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช.กล่าวยอมรับว่า การหารือวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะป.ป.ช.ทำตามที่อสส.ขอมาทั้งหมดไม่ได้ ยังมีปัญหาข้อกฎหมายที่เห็นต่างกันบางส่วน ป.ป.ช. ยืนยันว่าไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. แต่ อสส. ก็บอกว่าเป็นข้อที่ทำได้ จึงยังไม่ได้ข้อยุติ อัยการฯจึงบอกว่าต้องกลับไปดูข้อกฎหมายอีกครั้ง ตอนนี้ก็ยุ่งกันใหญ่ จะต้องคุยกันใหม่ เพราะยังเหมือนวนในอ่าง
เสียงแข็งยอมได้-แต่ไม่ทั้งหมด
“การที่รอง อสส.ระบุว่าป.ป.ช. แข็ง ก็ใช่ เพราะเราไม่ยอม เรายึดกฎหมาย และเห็นว่าสำนวนในคดี หลักฐาน ข้อไต่สวนต่าง ๆ เพียงพอดำเนินคดีแล้ว แต่เขายังเห็นต่าง อย่างไรก็ตาม ในส่วนการสอบพยานเพิ่มนั้น ป.ป.ช. ก็รับไปทำบางส่วนให้ แต่ส่วนที่ยังเหลือยืนยันว่าทำไม่ได้ การประชุมวันนี้ ไม่ได้เรียกว่า จบไม่สวย แต่ยังไม่จบ เพราะต่างคนต่างยัน แต่ยังไม่ได้กำหนดนัดหารือครั้งต่อไป เพราะทั้งป.ป.ช.-อสส.ต้องรายงานที่ประชุม ป.ป.ช.ก่อน” นายสรรเสริญ กล่าว
ปปช.ย้ำไม่สอบพยานเดิมซ้ำ
ด้านนายปานเทพ กล้านรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เผยว่า นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช.ได้รายงานผลประชุมคณะทำงานร่วมฯคดีโครงการรับจำนำข้าวให้ทราบแล้วว่า มีการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องการสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม
ชงเข้าที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง11พย.
“พยานใดที่ป.ป.ช.ไต่สวนไปแล้วจะไม่นำมาพิจารณาใหม่ แต่สำหรับพยานเอกสารที่อัยการฯขอเพิ่มจากที่ป.ป.ช.อ้างอิงไป จะหาให้ เนื่องจากมีพยานบุคคลอ้างอิงถึงพยานเอกสาร แต่ในส่วนพยานอื่นๆนั้นป.ป.ช.เห็นว่าเพียงพอแล้ว” นายสรรเสริญกล่าว และว่า จะรายงานข้อสรุปของที่ประชุมคณะทำงานร่วมให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบวันที่ 11 พฤศจิกายน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น